พูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ การสร้างโลกเสมือนจริงโดยใช้เทคโนโลยีดิจิตอลและใช้กล้องเป็นสื่อกลางในการมองเห็นโลกเสมือนจริงดังกล่าว
ผมจะให้ดูคลิปตัวอย่างกันก่อน ที่จะอธิบายอะไรยาวๆเป็นตัวหนังสือให้ปวดหัวละกันน่ะครับ
ตัวอย่างที่ 1 : เป็นการสาทิตการสร้าง AR Flash Application โดยใช้ FLARManager Framework จะเห็นได้ว่ามีการใช้ Marker ที่มีลักษณะคล้ายกับ QR Code เข้ามาช่วยในการหาตำแหน่งในการแสดงผล 3D Object หรือ Animation
หลายคนคงสงสัย และบางคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า AR นั้นก็คล้ายๆกับ QR นั้นแหละ! เพราะมีลักษณะการใช้งานที่คล้ายกันคือ ใช้กล้องส่องไปยัง Marker และจะได้ Content ที่ต้องการออกมา
ส่วนที่แตกต่างกันระหว่างเทคโนโลยี 2 ตัวนี้ก็คือ
- QR นั้นเก็บข้อมูลเอาไว้ในตัว Marker ในรูปแบบของ Text เพียงแค่นำกล้องมาส่อง โปรแกรมก็จะแปล Marker ออกมาเป็นตัวหนังสือ แต่
- AR ใช้ Marker เป็นแค่ตัวบอกตำแหน่งและทิศทางให้กับ Application รับรู้แค่ว่าจะให้นำเอา Content ที่เป็นรูปแบบ 3D มาแสดงตรงตำแหน่งไหนแค่นั้นเอง
พอจะเข้าใจว่า AR คืออะไรและข้อแตกต่างระหว่าง AR กับ QR กันแล้วยังครับ ถ้าเกิดยังงงๆอยู่ลองดูตัวอย่างต่อ ไป
ตัวอย่างที่ 2 : ตัวอย่างต่อไปคือการนำเอา AR ไปใช้งานครับ โลกเสมือนจริงนั้นจะสมจริงแค่ไหน ก้ขึ้นอยู่กับ 3D Object ที่เราสร้างขั้นมาละครับ ถ้าพูดถึงในเมืองไทยแล้วคงไม่มีที่ไหนทำได้สมจริงเท่ากับ PacharaStudio แล้วละครับ ^^
ดูมา 4 ตัวอย่างแล้วจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยี Augmented Reality นั้นขาดอุปกรณ์กล้องไป เหมือนขาดใจ ^^ แตก็จริงครับส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการมองที่ผ่านกล้องซะส่วนมากเว้นแต่จะใช้พวก Augmented Reality Glasses เข้ามาช่วย แต่ยังไงก็ไม่พ้นมีกล้องอีกละครับ
เรื่องกล้องก็เป็นข้อกำกัดอย่างหนึ่งของเทคโนโลยี Augmented Reality
ต่อไปมาพูดถึงเรื่องของ Marker กันบ้าง
![]() |
QR Code |
AR Marker |
อย่างที่ได้บอกไปครับ QR Code นั้นจะมีราลละเอียดที่เยอะกว่า AR Marker มาก สาเหตุก็เนื่องมาจาก QR Code เก็บข้อมูลเอาไว้ในตัว Marker เอง แต่ AR นั้นต่างออกไป Marker นั้นใช้เป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยบอกพิกัดและทิศทางเพื่อให้ Application นั้นๆ สามารถนำ 3D Content หรือ อื่นๆมาแสดงได้ถูกตำแหน่ง